ข้อความที่พบบ่อยเมื่อการใช้สูตรเกิดข้อผิดพลาด | |||
ข้อความผิดพลาด | สาเหตุ | ตัวอย่าง | วิธีแก้ปัญหา |
##### | จะเกิดขึ้นเมื่อตัวเลขในเซลล์ยาวกว่า ขนาดของเซลล์ | แก้ไขได้โดยการขยายขนาด ความกว้างของเซลล์ | |
#VALUE! | จะเกิดขึ้นเมื่อใช้สูตรผิดหลักไวยากรณ์ของสูตร เช่น การนำตัวเลขไปบวกกับตัวอักษร เมื่อสูตรไม่สามารถคำนวณหาค่าเป็นตัวเลขได้ | #VALUE! | แก้ไขได้โดยการสำรวจดูว่าประเภทของข้อมูล ถูกต้องตามหลักคณิตศาสตร์หรือไม่ |
#DIV/0! | จะเกิดเมื่อใช้ 0 เป็นตัวหาร เช่น 10/0 ซึ่งทำไม่ได้ | #DIV/0! | แก้ไขได้โดยการใช้ตัวเลขอื่น ๆ เป็นตัวหารแทน |
#NAME? | จะเกิดเมื่อในสูตรมีข้อความที่ Excel ไม่สามารถบอกได้ว่าคืออะไร เตือนเมื่อสูตรใช้ชื่อเซลล์ แต่ไม่พบชื่อที่ตั้งไว้ เช่น A1+A โดยที่ตัวอักษร A แปลกปลอมเข้าไปหรือไม่ | =One+Two แต่ไม่มี Range Name ชื่อ One กับ Two | แก้ไขได้โดยการตรวจสอบสูตรดูว่ามีข้อความอะไร ไม่ได้เกี่ยวข้องในชีทนั้น |
#N/A | จะเกิดขึ้นเมื่อกรอกตัวแปรผิดประเภทให้กับฟังก์ชัน เช่น ฟังก์ชันต้องการเซลล์เดียว แต่เราใส่เป็นหลาย ๆ เซลล์ หรือ เตือนเมื่อสูตร Lookup ค้นหาค่าที่ต้องการไม่พบ | =Match(MyData, MyRange, 0) แต่ไม่มี MyData | แก้ไขได้โดยการตรวจสอบว่าประเภทตัวแปร ของฟังก์ชันคืออะไร แล้วเปลี่ยนให้ถูกต้อง |
#REF! | จะเกิดขึ้นเมื่อโปรแกรมไม่สามารถค้นหาตำแหน่งอ้างอิงเซลล์ที่ใช้ ในสูตรได้ มักพบเมื่อหายไปอ้างเซลล์ข้ามชีทหรือข้ามสมุดงาน เมื่อตำแหน่งเซลล์ที่อ้างในสูตร เซลล์ที่อ้างถูกลบทิ้ง | แก้ไขได้โดยการตรวจสอบตำแหน่งอ้างอิงเซลล์ | |
#NULL! | จะเกิดขึ้นเมื่อกำหนดพื้นที่เซลล์สองเซลล์ที่ไม่ได้มีส่วนใดต่อกัน แต่ลืมแบ่งแยกด้วยเครื่องหมายคั่น (,) หรือ เตือนเมื่อสูตร เช่น SUM(A1:B2,C2:D5) เขียนผิดเป็น SUM(A1:B2 C2:D5)อ้างถึงตำแหน่งเซลล์ที่ไม่มีตัวตน | =(F:F H:H) เมื่อ Column F ไม่ได้ตัดกับ Column H | แก้ไขได้โดยการใส่เครื่องหมายคั่นให้ถูกต้อง |
วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554
สป11 แสดงอาการ ERROR ใน EXCEL
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น