พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เทคโนโลยี (รองผบก.ปอท.) ในฐานะผู้รับผิดชอบและดูแลการกระทำความผิดเกี่ยวเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ ลุยเข้มขจัดการกระทำผิดกฎหมายบนโลกออนไลน์ หลังจำนวนผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้น เร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลกฎหมายและพรบ. คอมพิวเตอร์ ย้ำชัดหมดเวลาอ้างวลีฮิต “รู้เท่าไม่ถึงการณ์” จากนี้หากทำผิด จับแน่ ปรับแน่ คุกแน่ ๆ
เพื่อ
เร่งสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.)
จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรม “โพสต์ต้องคิด...คลิกเสี่ยงคุก!”
ภายใต้ “โครงการออนไลน์ใสสะอาด เรารักในหลวง” เพื่อรณรงค์ให้ความรู้ใน 2
ประเด็นคือ 1.ให้ประชาชนเข้าใจกฎหมายในการใช้สื่อออนไลน์อย่างปลอดภัยและ
2.เพื่อให้ประชาชนรู้ทันกลอุบายต่างๆเพื่อสามารถป้องกันตนเองและไม่ตกเป็น
เหยื่อของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อไป โดยหลังจากนี้เป็นต้นไป
จะดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดในข้อหาดังกล่าวอย่างจริงจัง
หมดเวลาจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย ดังนั้นประชาชนต้องรู้กฎหมาย
โดยเฉพาะกฎหมายหมิ่นประมาทซึ่งมีประชาชนเข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเป็น
จำนวนมากในแต่ละวัน
ด้วย
เหตุนี้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
จึงได้รวบรวม 10 พฤติกรรมที่ประชาชนมักกระทำผิดพร้อมโทษที่จะได้รับ
ชี้ชัดประชาชนต้องหันมาสนใจกฎหมาย และ พรบ.คอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง
เนื่องจากการกระทำผิดด้วยการ กดไลค์ คอมเม้นท์ แชร์ โพสต์ เพียงครั้งเดียว
ก็สามารถทำให้ท่านติดคุกได้
ต่างจากในอดีตซึ่งประชาชนต้องทำความผิดอาญาร้ายแรงถึงจะติดคุก
สำหรับข้อมูล
10 พฤติกรรมเสี่ยงคุก
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้
รวบรวมไว้ให้ประชาชนมีดังนี้
1.Upload
รูปลามกอนาจารทั้งหลายทั้งปวงในสากลโลก ไม่ว่าจะรูปตัวเองหรือรูปคนอื่น/
คุกเน้นๆได้ถึงห้าปี หรือปรับได้ถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.ตั้งตัว
เป็นเจ้ากรมข่าวลือ ที่ชอบปล่อยข่าวให้บ้านเมืองเกิดความชุลมุนวุ่นวาย/
มีโอกาสได้ไปนอนคิดทบทวนพฤติกรรมตัวเองอย่างเงียบๆในคุกได้ถึงห้าปี
หรือปรับถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.พวก
ที่ชอบใช้วิทยายุทธเฉพาะตัว ตัดต่อภาพคนโน้นคนนี้
ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งภาพวีดีโอ แล้วนำมาเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต
ทำให้เจ้าของภาพเสียหาย อับอาย /
ถูกฟ้องขึ้นมาอาจต้องไปสงบสติอารมณ์ในคุกได้ถึงสามปี
หรือเจอปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.แอบ Save
ขโมยข้อมูลของคนอื่น แล้วเอาไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์กับตัวเอง
เพื่อการหากำไร เพื่อนำไปใช้กลั่นแกล้ง/
ถ้าถูกจับได้มีหวังถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ รวมทั้งตามกฎหมายลิขสิทธิ์
และพรบ. คอมพิวเตอร์แน่นอน
5.พวกชอบใส่
ร้ายป้ายสีคนอื่น กุเรื่องต่างๆนานา ให้คนอื่นเสียหาย อับอาย ขายหน้า /
อาจต้องไปนั่งสลดในคุกได้ถึงห้าปี หรือปรับได้ถึงหนึ่งแสนบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
6.มีความอยาก
รู้อยากเห็นสูง เรื่องชาวบ้านคืองานของเรา ชอบแอบเอา ID หรือ Password
ผู้อื่นไปแอบดูข้อมูลต่างๆนานาของบุคคลอื่น / เจอฟ้องเรียกร้องค่าเสียหาย
มีสิทธิ์เจอทั้งคุกทั้งปรับแลกกับความอยากรู้อยากเห็นกันไปเลย
7.เห็น File
งานของคนอื่นไม่ได้ มักมือบอนไปลบ เพิ่มเติม หรือแก้ไขเนื้อหาใน File นั้น
จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ แต่สุดท้ายเกิดความเสียหายแก่เจ้าของไฟล์นั้น /
แบบนี้เจอคุกได้ถึงห้าปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับแน่นอน
8.ชอบส่งอีเม
ลลูกโซ่โดยไม่บอกที่มา ประเภทว่าถ้าไม่ทำตาม ไม่ส่งต่อ
ชีวิตท่านจะต้องตกทุกข์ได้ยากไปชั่วกัลปาวสาน
การส่งอีเมลโฆษณาขายของต่างๆนานาที่ผู้รับไม่ต้องการ
สร้างความน่าเบื่อหน่าย สุดแสนรำคาญแก่ผู้ได้รับ /
นอกจากจะถูกสาปแช่งจากผู้รับแล้ว ถ้าถูกจับได้ จัดไปถึงหนึ่งแสนบาท
9.ชอบตั้ง
สำนักข่าวเป็นของตัวเอง เจออะไรทั้งใน Line, Facebook , Twitter
เป็นขอกดแชร์ไว้ก่อน เรื่องจริงไม่จริงไม่เคยคิดเช็ค
ซึ่งถ้าเกิดดันไปส่งต่อข้อความที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ไม่มีอะไรมาก /
เจอคุกพอๆกับคนเริ่มข้อความเหล่านั้น
รับโทษไปด้วยกันทั้งคนทำคนส่งต่อพร้อมๆกันไปเลย
10.การโพสต์
ข้อความใดๆที่เป็นการหมิ่นเบื้องสูง
หรือทำเว็บไซต์หมิ่นสถาบันเบื้องสูงซึ่งเป็นที่เคารพของประชาชนชาวไทยให้ได้
รับความเสื่อมเสียแห่งเกียรติยศอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
/ถือเป็นความผิดร้ายแรงทั้งกฎหมายอาญา และ พรบ.คอมพิวเตอร์
มีโทษจำคุกสูงสุดได้ถึง สิบห้าปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.tcsd.in.th
http://www.isranews.org/isra-news/item/42205-a_42205.html#.VipgLB2estY.twitter
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น